วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อันว่าชีวิตสัตว์โลก !! ช่างสั้นนัก

ลูกแมวตายตอนคลอด
"อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"

     เมื่อนานมาแล้ว ได้เก็บภาพซากลูกแมวพร้อมกับ รก ที่นอนตายกลางลานจอดรถแห่งหนึ่ง เมื่อมองเห็นแล้วรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นในจิตใจ เป็นความรู้สึกที่บอกได้ยาก แต่เมื่อลองคิดพิจารณาดู มันช่างเหมาะกับคำๆนี้เหลือเกิน "ชีวิต.. สุดท้ายก็แค่นี้หรือ..?"


     สรรพสัตว์ที่เกิดมาในโลกนี้ ช่างโง่เขลาเสียเหลือเกิน เหมือนคนตาบอดที่ชอบบอกกับตัวเองว่ารู้ ว่าเห็นในทุกๆสิ่ง แต่แท้จริงแล้ว มีเพียงไม่กี่หยิบมือที่ค้นพบวิธีรักษา ตาที่บอดนั้น ให้หาย และรู้ถึงความเป็นจริงแท้ที่ถูกปิดบังมาเนิ้นนาน.. หากเรารู้ตัวว่ายังเป็นผู้ที่ตาบอด และรู้ว่ามีคนที่ตาดีอยู่ในโลกนี้ สิ่งที่เราควรทำก็คือ.. ไปถามท่านว่า "เราจะรักษาตาบอดได้อย่างไร ?"

     ชีวิตสัตว์ในโลกนี้ รวมถึงมนุษย์ที่ภาคภูมิใจในตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ มีอายุขัยไม่เท่ากัน มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ละชนิด  ซึ่งแม้แต่ชนิดเดียวกันก็ยังมีชีวิตที่ยืนยาวไม่เท่ากัน มนุษย์บางคนเกิดมายังไม่ทันได้ลืมตา ก็ด่วนเสียชีวิตไป  มนุษย์บางคนอายุยืนยาวอย่างน่าเหลือเชื่อแต่มีชีวิตในแต่ละวันช่างทุกข์ยากแสนเข็ญ  มนุษย์บางคนตลอดชีวิตมีแต่ความสุขสบายทั้งกายใจจึงอยากอยู่ดูโลกนี้ไปนานๆ แต่กลับอายุสั้น  มนุษย์บางคนพ่อแม่เลี้ยงดูมาด้วยความยากลำบาก แต่ด้วยช่วงชีวิตที่ผิดหวังในบางเรื่อง กับถึงกับฆ่าตัวตาย ไม่เสียดายชีวิตที่พ่อแม่มอบให้  มนุษย์บางคนใช้ทั้งชีวิตเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นให้มีความทุกระทมเสมอ มีแต่คนสาปแช่งให้ตาย แต่ก็ไม่ตายสักที  มนุษย์บางคนเป็นคนดีชั่วชีวิต ถือศีล ปฏิบัติธรรม แต่เวลาเสียชีวิตกับเจอการเสียชีวิตแปลกๆ เช่น รถชน ตกต้นไม้ โดนงูกัด ฯลฯ จนถูกแม้แต่พวกขี้เมาหัวเราะใส่ว่า "สู้เป็นขี้เมาดีกว่า ตายช้า ไม่เหมือน พวกเข้าวัดเข้าวา ตายไว"

     การมีชีวิตอยู่ หรือการเสียชีวิต ของสรรพสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะมนุษย์นั้น มันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่าที่ตาเราเห็น หรือหูที่เราได้ยิน อย่าตัดสินมนุษย์ว่าคนๆนั้น "ดี" หรือ "ไม่ดี"ด้วยลักษณะการเสียชีวิต

     ข้าพเจ้าได้ยินบ่อยๆ จากผู้คนทั่วไป ว่าคนนั้น คนนี้ เข้าวัด ฟังธรรม ถือศีล แปปๆ อายุไม่เท่าไหร่ ถูกรถชนตายซะแล้ว !!   ดูนั่นสิ ดูขี้เมาตรงโน้นสิ  วันๆไม่ทำอะไร  ไม่ขโมยของ, แกล้งหมา, ก็เอาแต่เมาทั้งวัน  ตั้งแต่หนุ่มจนแก่แล้ว ยังไม่ตายสักที !!  ซึ่งจากคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆจากหลายๆปากมักจะเป็นประมาณนี้ทั้งนั้น  ก็เพราะมนุษย์เราใส่ใจกับ "การตาย มากเกินไป" จนนำการตายมาตัดสิน "คุณค่าของมนุษย์คนนั้นๆ"  ว่าสิ่งที่ทำในช่วงชีวิตที่มีอยู่ นั้นควรทำหรือไม่ ?  ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างยิ่ง !!

    สรรพสัตว์ทั้งหลายโดยทั่วไป  ไม่รู้วันเกิด  ไม่รู้วันตาย (วันเกิด..ถ้าพ่อแม่, ญาติของเรา ไม่บอกเรา เราก็คงจะไม่ทราบ)  แต่รู้ว่าขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่  ทำดี หรือ ทำเลว แล้วถ้าหากท่านเชื่อในพุทธศาสนา ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแล้ว.. ท่านคงจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า ควรทำอะไร ?  มากกว่า.. จะไปสนใจว่าจะตายเมื่อไหร่?  จะตายอย่างไร?

     เพราะชีวิตนี้มันช่างสั้นนัก !!  คำตอบที่คุณค้นหาอาจจะอยู่หลังจากความตายแล้วก็เป็นได้ !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น