วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ท่านคิดว่าสังคมไทยทำไมถึงตกต่ำโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ (ยุคข้าวยาก หมากแพง)


พระพุทธองค์สอนไว้ว่า "ผลเกิดจากเหตุ  ดับเหตุได้ จึงไร้ผล"

     ศีล 5 ประกอบไปด้วย ห้ามฆ่าสัตว์, ห้ามลักทรัพย์, ห้ามประพฤติผิดในกาม, ห้ามพูดปด ส่อเสียด, ห้ามดื่มสุรา  ทุกข้อล้วน มีผลตามมาหากกระทำ เช่น เราฆ่าสัตว์ ย่อมทำให้เรา มีโรคมาก อายุสั้น  ถ้าเราลักขโมยของ ย่อมทำให้เรามีเหตุให้เสียทรัพย์อันไม่ควรจะเสีย ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นต้น

     ประเทศไทยเข้าสู่ยุคข้าวยาก หมากแพง เศรษฐกิจย่ำแย่ คนส่วนใหญ่ในประเทศยากจนมีหนี้สินมากมาย มีรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ทุกๆอย่างมันบ่งชี้ถึงเรื่องเกี่ยวกับ การเมือง และเศรษฐกิจตกต่ำ เมื่อมาลองคิดๆดูในเรื่อง "ผลเกิดจากเหตุ" ไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม ทำให้ฉุกคิดถึงเรื่องๆหนึ่งที่น่าจะเกี่ยวข้อง ก็คือ "เงินซื้อได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งคน" เมื่อคนเริ่มมองสิ่งที่ผิด เป็นสิ่งที่ทำได้ และยอมรับได้ ในเมื่อรับเงินทุจริตในเรื่องอะไรก็ตาม คุณก็ต้องชดใช้ในเรื่องนั้นๆ  
     
     ลองคิดเล่นๆ สมมุตว่า ในประเทศแห่งหนึ่งในโลกนี้(ไม่ใช่ประเทศไทย) ผู้คนส่วนใหญ่เป็นประชาธิปไตร โดยใช้เสียงข้างมาก ในการเลือกตั้ง แล้วมีนักการเมืองประเทศนั้นๆ แย่งกันซื้อเสียงประชาชน โดยประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนั้นๆก็นิยมเลือกฝ่ายที่ให้ผลประโยชน์มากที่สุด และนักการเมืองที่ลงทุนมากที่สุดก็ได้รับเลือกไป  และถ้าผลกรรมมีจริง คนที่ต้องรับผลกรรมนั้น ก็คงจะไม่พ้น "ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นๆนั่นเอง"  แล้วผลกรรมที่ควรจะได้รับนั้นละ น่าจะคืออะไร ?  ก็ในเมื่อเกี่ยวกับเงิน ก็คงจะไม่พ้นเรื่องเศรษฐกิจอย่างแน่นอน  จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประชาชนในประเทศนั้นถึงมีปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจซะส่วนใหญ่  เพราะคนส่วนใหญ่มีกรรมเกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้นั้นเอง

    ทั้งนี้ ทั้งนั้น เรื่องที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องที่สมมุตขึ้นมา แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะทราบคำตอบดีว่าเป็นเช่นไร หากท่านทำใจให้เป็นกลางและมองดูโลกตามความจริง  แต่สัจจะธรรมก็คือ "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ร่วมกันทำดีก็ย่อมดีทั้งหมู่คณะ ร่วมกันทำชั่วก็ย่อมได้ชั่วทั้งหมู่คณะเช่นกัน" จงมาร่วมกันสร้างความดี ละเว้นความชั่วให้มากที่สุด ผลกรรมย่อมปรากฏต่อผู้กระทำกรรมเสมอ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะยิ่งใหญ่ หรือเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น